ธีราทร บุญมาทัน (เกิด 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2533) ชื่อเล่น อั้ม เป็นนักฟุตบอลอาชีพชาวไทย ปัจจุบันเล่นเป็นแบ็คซ้ายให้บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดและทีมชาติไทย ธีราธร เป็นนักเตะไทยคนแรกที่คว้าแชมป์เจลีก 1 ร่วมกับโยโกฮามา เอฟ มารินอส และเป็นแบ็คซ้ายที่ถูกขนานนามว่า “ปาฏิหาริย์ซ้าย”2]
ชีวิตในวัยเด็กธีราธรเกิดเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2533 ที่จังหวัดนนทบุรี[2] เป็นบุตรของสมหมาย บุญมาทัน[3] ซึ่งทำงานเป็นช่างทำผม[4] และเพียงใจ บุญมาทัน[3] ซึ่งเป็นช่างประกอบเลนส์แว่นตา เขาเรียนที่โรงเรียนแห่งหนึ่งจนถึงป.3 เกรดโรงเรียนวัดในจังหวัดบ้านเกิดแล้วย้ายไปโรงเรียนกีฬากรุงเทพ จนกระทั่งจบชั้นมัธยมต้น ในช่วงนี้ เขาก็ฝึกเล่นฟุตบอลด้วย
ต่อมาในระดับมัธยมปลายได้ศึกษาที่โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี โดยได้เล่นฟุตบอลเยาวชนกับกวินท์ ธรรมสัจจานันท์และคว้าแชมป์ฟุตบอลขาสั้นหลายรายการหลังจบมัธยมปลาย [2] เขายังเล่นฟุตบอลอาชีพให้กับราชประชาอีกด้วย ก่อนจะย้ายไปเล่นให้กับบุรีรัมย์ยูไนเต็ดหรือชื่อเดิมของสโมสรฟุตบอลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค[5]
ประวัติ ธีราทร บุญมาทัน
ธีราทร บุญมาทัน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดฤดูกาล 2014เมื่อวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2557 ในเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก กลุ่มอี เกมที่ 4 ธีราธรทำประตูขึ้นนำ 1–0 ให้กับเซเรโซ โอซากะ สโมสรจากญี่ปุ่น ก่อนที่จะจบลงด้วยการเสมอกัน 2–2[6] ต่อมาเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 ธีราธรทำประตูแรกในไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล พ.ศ. 2557 ช่วยให้บุรีรัมย์เอาชนะแบงค็อกยูไนเต็ด 3–2 ในบ้าน 0 ต่อมาวันที่ 9 กรกฎาคม 2557 ธีราธร ยิงประตูชัย ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย มูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ บุรีรัมย์เสมอ 2-2 ในบ้านกับบางกอกกล๊าสในนาทีที่ 120 ต้องตัดสินด้วยการยิงจุดโทษ ท้ายที่สุดบุรีรัมย์แพ้จุดโทษ 3-5 และจบเส้นทางเอฟเอ คัพ [7] เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 ธีราทรทำประตูที่สองในลีกในนัดที่บุรีรัมย์เสมอกับปตท. ระยอง 1–1
ฤดูกาล 2015วันที่ 18 มีนาคม 2558 เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก กลุ่มเอฟ เกมที่ 3 ธีราทร เสมอกัน 1-1 ระหว่าง บุรีรัมย์ กับ กัมบะ โอซากะ เมื่อวันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2558 ธีราธรทำประตูแรกในไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล พ.ศ. 2558 จากฟรีคิก ช่วยให้บุรีรัมย์เอาชนะเชียงรายยูไนเต็ด 1–0 ถือเป็นชัยชนะครั้งแรกกับเชียงรายในประวัติศาสตร์ของสโมสร [10] ต่อมาวันที่ 7 เมษายน 2558 เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก กลุ่มเอฟ เกมที่ 4 ธีราทร ยิงประตูให้กัมบะ โอซากะ จากลูกเตะมุม แต่สุดท้าย บุรีรัมย์ แพ้ในบ้าน 1-2 เมื่อปี 2558 รอบ 64 ทีม ช้างเอฟเอคัพ เสมอกัน บุรีรัมย์ เสมอ แบงค็อก ยูไนเต็ด 0-0 ในบ้าน ต้องใช้เวลาต่อเวลาพิเศษในการตัดสินผู้ชนะ ช่วง 30 นาทีสุดท้าย ธีระ ยิงประตู บุรีรัมย์ชนะในช่วงต่อเวลาพิเศษ 3-0 และผ่านเข้าสู่รอบ 32 ทีมได้สำเร็จ ต่อมาเมื่อวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2558 ธีราทรก็ยิงประตูในลีกครั้งที่ 3 ช่วยให้บุรีรัมย์เอาชนะแบงค็อก ยูไนเต็ด 3-3 ที่สนามไทย-ญี่ปุ่น (ดินแดง) 0 ที่จะเอาชนะ
วันที่ 30 มีนาคม 2559 ธีราทรทำประตูแรกในไทยลีกฤดูกาล 2559 ในเกมเหย้าของบุรีรัมย์ที่พบกับสุพรรณบุรี 2-2 เสมอกัน ต่อมาในวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 ธีระ ธ เล่นเกมสุดท้ายให้กับสโมสรในนัดที่บุรีรัมย์เป็นเจ้าภาพในบ้านกับชัยนาทฮอร์นบิล 0–0[14] จากนั้นเขาก็ย้ายไปพบกับคู่แข่งชั่วนิรันดร์ของเขาคือเอสซีจีเมืองทองยูไนเต็ดในวินาทีที่สอง ขาของฤดูกาลเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ดเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เพจเฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการของบุรีรัมย์ยูไนเต็ด[15] แถลงข่าวประกาศขายธีราทร บุญมาทันให้กับเพื่อนร่วมทีมในลีก เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ตามข้อเสนอซื้อตัวจากหลายทีมก่อนหน้านี้ เขาจะได้ประเดิมสนามให้กับต้นสังกัดใหม่ของเขาในเลกที่สองของไทยลีก 2016
ฤดูกาล 2016เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2559 ธีราธรได้เปิดตัวและยิงประตูแรกให้สโมสรในฤดูกาลไทยลีก 2559 ช่วยให้เมืองทองนครเอาชนะราชสีมามาสด้า 4–1 [16] ต่อมาวันที่ 20 สิงหาคม 2559 ฟรีคิกของธีราทรช่วยให้เมืองทองเอาชนะพัทยายูไนเต็ด 4–1[17] จบฤดูกาล ธีราธร ลงเล่นในลีก 12 นัดให้เมืองทอง ยิงได้ 2 ประตู ประตูช่วยให้สโมสรคว้าแชมป์ไทยสมัยที่ 4
ธีราทร บุญมาทัน ฤดูกาล 2017เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560 ในกลุ่มเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก กลุ่มอี ธีราธรทำประตูด้วยฟรีคิกช่วยให้เมืองทองเปิดสนามศุภชลาศัย 2-1 พบกับ คาชิมะ แอนท์เลอร์ส สโมสรจากญี่ปุ่น ต่อมาในวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2560 ธีราทรทำประตูแรกของไทยลีกฤดูกาล พ.ศ. 2560 เมื่อเขาช่วยเมืองทองเอาชนะชลบุรี 3–0 [20] ต่อมาในวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2560 ธีราธรยิงประตูในลีกที่ 3 ช่วยให้เมืองทองมอบราชบุรีมิตรผล ขึ้นนำ 1-0 แต่เกมจบลงด้วยการเสมอกัน 1-1 ต่อมาวันที่ 3 พฤษภาคม 2560 ธีราธร ยิงประตูที่ 4 ในลีกเขาช่วยเมืองทองเอาชนะแบงค็อกยูไนเต็ด 4-2 ที่สนามฟุตบอลธรรมศาสตร์รังสิต ต่อมาในวันที่ 17 และ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 ธีราธรทำประตูในเกมลีกสองเกม ในเกมเหย้าที่เมืองทอง พวกเขาแพ้ให้กับ การท่าเรือ และ อุบล ยูไนเต็ด ด้วยสกอร์เดียวกัน 2:3[23] [24] ต่อมาวันที่ 2 มิถุนายน 2560 ธีราทรยิงประตูที่ 7 ในลีกให้เมืองทองเปิดบ้าน เอาชนะสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด 4–2[25] ต่อมาในวันที่ 11 ตุลาคม 2560 ในรอบก่อนรองชนะเลิศของโตโยต้าลีกคัพ ธีราทรทำประตูให้ทีมเก่าของเขา บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ช่วยให้เมืองทองชนะ 2–0[26] ต่อมาในเดือนพฤศจิกายน 22 พ.ย.60 โตโยต้า ลีก คัพ รอบชิงชนะเลิศ เมืองทอง พบ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่สนามศุภชลาศัย กทม. ในท้ายที่สุดเมืองทองเอาชนะเชียงราย 2-0 และช่วยให้เมืองทองคว้าแชมป์โตโยต้าลีกคัพเป็นครั้งที่สอง[27]
บทความแนะนำ